top of page
รูปภาพนักเขียนPanida Karlsson

ทำไมการตั้งเป้าหมายในเวิร์กช็อปดีไซน์ต้องชัดเจน? 🎯



ทำไมการตั้งเป้าหมายในเวิร์กช็อปดีไซน์ต้องชัดเจน? 🎯

เข้าใจง่ายเหมือนเดินตลาด แต่พลังมันไม่ธรรมดาเลย!

การจัดเวิร์กช็อปไม่ว่าจะเป็นเรื่อง UX หรือ Product Design ก็เหมือนกับการเดินตลาดนัดค่ะ ถ้าเรารู้ว่าเราจะซื้ออะไร ทุกอย่างก็เป็นไปอย่างราบรื่น แต่ถ้าเราเดินไปแบบไม่รู้ว่าจะทำอะไร แน่นอนว่าเสียเวลาและอาจไม่ได้อะไรกลับมาเลย! 🛒 การตั้งเป้าหมายจึงเป็นหัวใจสำคัญในทุกๆ การจัดเวิร์กช็อป

มาดูกันเลยดีกว่าว่า ทำไม การตั้งเป้าหมายถึงสำคัญ และ ทำอย่างไร ถึงจะรู้ว่าเป้าหมายที่เราตั้งชัดเจนเพียงพอแล้ว 🌟


การตั้งเป้าหมายชัดเจนทำอย่างไร?

1. ตั้งคำถามกับตัวเองให้ชัดเจน

เริ่มต้นง่ายๆ ด้วยการถามคำถามง่ายๆ กับตัวเองว่า จุดประสงค์ของเวิร์กช็อปนี้คืออะไร? สิ่งที่คุณหวังว่าจะได้จากมันคืออะไร? เป้าหมายอาจมีหลายแบบ เช่น

  • ระดมไอเดียใหม่ๆ สำหรับโปรเจกต์

  • แก้ปัญหาในผลิตภัณฑ์ที่พบเจออยู่

  • ปรับปรุงกระบวนการทำงานในทีมให้ลื่นไหลขึ้น

  • สร้างความเข้าใจร่วมกันเกี่ยวกับผู้ใช้ผลิตภัณฑ์

ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเป้าหมายของคุณคือการระดมไอเดียเพื่อเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ในแอป เป้าหมายจะชัดเจนกว่าแค่ “อยากปรับปรุงแอป” เพราะเป้าหมายที่กว้างเกินไปทำให้การสนทนาหรือกิจกรรมภายในเวิร์กช็อปไม่ได้โฟกัสตามที่ควรจะเป็น


2. เป้าหมายต้องจับต้องได้ 📝

เป้าหมายที่ดีต้องสามารถวัดผลหรือมองเห็นความสำเร็จได้ ซึ่งเราเรียกว่า SMART goals:

  • Specific (เจาะจง): เป้าหมายต้องชัดเจน ไม่คลุมเครือ เช่น "อยากเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ในแอป" ไม่ใช่แค่ "อยากปรับปรุงแอป"

  • Measurable (วัดผลได้): ต้องสามารถวัดได้ว่าเวิร์กช็อปประสบความสำเร็จหรือไม่ เช่น ได้ไอเดียอย่างน้อย 10 ไอเดียใหม่ๆ

  • Achievable (ทำได้จริง): เป้าหมายไม่ควรใหญ่เกินไป ควรพิจารณาทรัพยากร เวลา และทักษะของทีม

  • Relevant (เกี่ยวข้อง): เป้าหมายต้องสอดคล้องกับปัญหาหรือโจทย์ที่คุณกำลังเผชิญ

  • Time-bound (มีระยะเวลา): ต้องมีระยะเวลาในการบรรลุเป้าหมาย เช่น "ได้ไอเดียใหม่ภายใน 2 ชั่วโมงของเวิร์กช็อป"

วัดผลได้หรือเปล่า?

เป้าหมายที่ดีต้องสามารถวัดผลได้ ไม่ใช่แค่เรื่องของความรู้สึกหรือการคาดเดา ยกตัวอย่างเช่น:

  • คุณต้องการไอเดียใหม่อย่างน้อย 10 ไอเดียจากเวิร์กช็อป

  • หรืออาจเป็นการทดสอบ prototype กับผู้ใช้แล้วมีผลตอบรับที่ดี 80% ขึ้นไป

ถ้าคุณสามารถระบุเป้าหมายที่มีตัวเลขหรือผลลัพธ์ที่สามารถวัดได้ นั่นแปลว่าเป้าหมายของคุณเริ่มมีความชัดเจนมากขึ้นแล้วค่ะ #การตั้งเป้าหมายที่วัดได้


3. ทำให้ทุกคนในทีมเข้าใจตรงกัน 🤝

เป้าหมายไม่ใช่เรื่องที่คิดคนเดียวแล้วเก็บไว้ในหัวนะคะ! สื่อสารให้ทุกคนในทีมเข้าใจตรงกัน และเห็นพ้องต้องกันว่า นี่คือสิ่งที่เราต้องการจากเวิร์กช็อปนี้ การทำเช่นนี้จะช่วยให้ทีมทำงานไปในทิศทางเดียวกัน และทุกคนรู้ว่าต้องทำอะไรเพื่อไปสู่เป้าหมายนั้น #ทำให้ทีมเข้าใจตรงกัน


4. อย่าลืมเช็คความเป็นไปได้ (Achievable)

หลายครั้งที่เราตั้งเป้าหมายให้สูงลิ่ว จนทำให้ทีมรู้สึกว่ามันเป็นไปไม่ได้ เป้าหมายที่ตั้งควรมีความท้าทาย แต่ต้องอยู่ในขอบเขตที่ทีมสามารถทำได้จริงด้วย เช่น ถ้าเป็นเวิร์กช็อปที่จัดในเวลา 2 ชั่วโมง การคาดหวังว่าจะได้ไอเดีย 50 อย่างอาจมากเกินไป แต่ถ้าเป็น 10-15 อย่างก็ถือว่ายังอยู่ในขอบเขตที่ทำได้ #ตั้งเป้าหมายให้สมเหตุสมผล


ทำไมต้องทำให้เป้าหมายชัดเจน?

1. ลดความสับสนและทำให้ทีมโฟกัส 🔍

ลองนึกภาพว่าเรากำลังจัดเวิร์กช็อปโดยไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจนเหมือนเดินเข้าไปในป่าที่ไม่มีแผนที่ ทุกคนก็จะเริ่มคุยกันไปเรื่อยๆ ไม่รู้ว่าจะต้องจบที่ไหน การตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนทำให้ทีมมีทิศทางร่วมกัน และไม่เสียเวลาไปกับเรื่องที่ไม่จำเป็น Gustavs Cirulis ก็ได้กล่าวไว้ว่าเป้าหมายคือสิ่งที่ขับเคลื่อนกระบวนการคิดสร้างสรรค์ #โฟกัสที่เป้าหมาย


2. ประเมินผลลัพธ์ได้ง่ายขึ้น ✅

การมีเป้าหมายที่ชัดเจนจะช่วยให้คุณรู้ว่าเวิร์กช็อปนั้นประสบความสำเร็จหรือไม่ การตั้งเป้าหมายที่วัดผลได้ (Measurable) จะทำให้การประเมินผลลัพธ์ง่ายและชัดเจนมากขึ้น เช่น ถ้าคุณตั้งเป้าว่าจะได้ไอเดียใหม่ๆ 10 อย่าง และถ้าได้ถึงเป้าก็แสดงว่าประสบความสำเร็จแล้ว


3. ทีมรู้สึกมีส่วนร่วมและมีทิศทางชัดเจน 🤝

การมีเป้าหมายที่ชัดเจนยังช่วยให้ทุกคนรู้สึกว่าตัวเองมีส่วนร่วมในกระบวนการ เนื่องจากทุกคนเข้าใจตรงกันว่าจะไปในทิศทางไหน ทำให้เกิดความสอดคล้องกันทั้งในเรื่องของแนวคิดและการทำงาน ทีมจะทำงานได้รวดเร็วขึ้นเพราะไม่มีใครต้องตั้งคำถามว่า "เรากำลังทำอะไรอยู่"


ตัวบ่งชี้ว่าเป้าหมายเราชัดเจนพอแล้วหรือยัง?


1. ทุกคนในทีมสามารถอธิบายเป้าหมายได้เหมือนกัน

ถ้าทุกคนในทีมสามารถอธิบายเป้าหมายของเวิร์กช็อปได้ตรงกัน นั่นแปลว่าเป้าหมายชัดเจนแล้วค่ะ! ถ้าคนในทีมยังไม่เข้าใจว่าเป้าหมายคืออะไร หรือตอบไม่ตรงกัน นั่นแสดงว่าเป้าหมายของคุณยังไม่ชัดเจนพอ


2. มีวิธีการวัดความสำเร็จที่ชัดเจน

ถ้าเราสามารถตอบได้ว่าอะไรคือความสำเร็จ เช่น "เราต้องการได้ไอเดียใหม่ 10 ไอเดีย" หรือ "เราต้องการให้ผู้ใช้ทดสอบแล้วพอใจ 80%" ถ้าคุณวางเป้าหมายแบบนี้ได้ แปลว่าเป้าหมายของคุณชัดเจนเพียงพอแล้วค่ะ!


3. ทุกคนเข้าใจบทบาทและหน้าที่ของตัวเองในเวิร์กช็อป

หากทีมของคุณรู้ว่าตัวเองต้องทำอะไรในเวิร์กช็อป เช่น ใครเป็นผู้นำกิจกรรม ใครเป็นผู้สังเกตการณ์ หรือใครเป็นผู้รวบรวมข้อมูล แสดงว่าเป้าหมายชัดเจนแล้ว เพราะทุกคนรู้ว่าพวกเขาควรทำอะไรเพื่อช่วยให้บรรลุเป้าหมายนั้น


สรุป: เป้าหมายที่ชัดเจน = ความสำเร็จของเวิร์กช็อป 💡

การตั้งเป้าหมายชัดเจน ไม่ใช่เรื่องที่ควรมองข้ามเลยค่ะ มันเป็นเหมือนแผนที่ที่จะช่วยนำทางทีมให้ไปถึงจุดหมายอย่างถูกต้องและรวดเร็ว อย่าลืมนำเอา SMART goals ไปใช้ในเวิร์กช็อปครั้งต่อไปของคุณนะคะ รับรองว่าจะเห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้นแน่นอน!

การทำให้ทุกคนเข้าใจบทบาทของตัวเอง วัดผลได้ และลดความสับสนในกระบวนการอีกด้วย ดังนั้นก่อนที่คุณจะจัดเวิร์กช็อปครั้งต่อไป อย่าลืมตั้งเป้าหมายที่ ชัดเจน วัดผลได้ และเป็นไปได้ นะคะ รับรองว่าจะช่วยให้เวิร์กช็อปของคุณมีประสิทธิภาพและได้ผลลัพธ์ตามที่หวังแน่นอน! #ตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน #เวิร์กช็อปดีไซน์ #ทำให้ทีมโฟกัส


Reference:

Cirulis, G., & Chang, C. (n.d.). How To Run A Successful Product Design Workshop. Retrieved from Intercom Blog.

แบบนี้ใครก็จัดเวิร์กช็อปได้ ขอแค่มีเป้าหมายชัดเจน! 🎯

ดู 5 ครั้ง0 ความคิดเห็น

Comments


bottom of page